แจ้งเตือนงานอย่างไร ไม่ให้ตกหล่น และประหยัดค่าใช้จ่าย

ภาพประกอบระบบแจ้งเตือน FixPro

แจ้งเตือนที่ดี คือการทำให้ทีมลงมือได้ทันที ไม่ใช่แค่ส่งข้อความ

📌 ทำไมการแจ้งเตือนสำคัญ?

งานซ่อมและงาน PM หลายงานตกหล่น เพราะไม่ได้แจ้งเตือนในเวลาที่เหมาะสม หรือใช้ช่องทางที่ไม่ตอบโจทย์พนักงาน

  • ช่าง “ไม่เห็นงาน” เพราะไม่มีระบบแจ้งเตือน
  • แอดมิน “ลืมตามงาน” เพราะข้อมูลกระจัดกระจาย
  • ทีมบริหาร “ไม่รู้สถานะ” เพราะไม่ได้รับการแจ้งทันเวลา

🔔 เปรียบเทียบช่องทางการแจ้งเตือนงานซ่อม

ช่องทาง ข้อดี ข้อจำกัด ค่าใช้จ่าย
Email ฟรี, แพร่หลาย, เหมาะกับผู้บริหาร ช่างบางคนไม่คุ้นเคย, ปะปนกับอีเมลอื่น ฟรี
LINE Notify ใช้งานง่าย, แจ้งเตือนทันที ยกเลิกให้บริการแล้ว
LINE Messaging API คนไทยคุ้นเคย, แจ้งผ่าน LINE ได้ทันที มีต้นทุน, ต้องมีระบบเชื่อม, จำกัดข้อความ
ไซต์เล็ก: ~1,200–1,500 บาท/เดือน
(~5,000 ข้อความ)
ไซต์ใหญ่: ~4,000–5,000+ บาท/เดือน
(~20,000–50,000 ข้อความ)
Pop Lite ฟรี, ใช้งานง่าย, แจ้งผ่านมือถือ, ไม่ปะปนกับแชท ต้องติดตั้งแอปเพิ่ม, ยังไม่รองรับแชท ฟรี

🚀 ระบบแจ้งเตือนใน FixPro มีอะไรบ้าง?

งานแจ้งซ่อม – มีการแจ้งเตือน 5 ครั้งในทุกเคสงาน:

  1. แจ้งแอดมินเมื่อมีงานใหม่เข้ามา
  2. แจ้งแอดมินและช่างเมื่อมีการมอบหมายงาน
  3. แจ้งแอดมินเมื่อช่างทำงานเสร็จ
  4. แจ้งแอดมินเมื่อปิดเคส
  5. แจ้งผู้แจ้งซ่อมเมื่อแอดมินปิดเคส

งาน PM (Preventive Maintenance) – แจ้งเตือนอัตโนมัติดังนี้:

  • แจ้งทุกเช้าเวลา 06:00 น. ไปยังแอดมินหรือช่างที่ได้รับมอบหมาย
  • แจ้งเตือนเพิ่มเติมทุกวันที่ 20 ของเดือน สำหรับงาน PM ที่ยังไม่ได้ดำเนินการ

ช่วยป้องกันการลืมหรือเร่งงานตอนสิ้นเดือน ลดความผิดพลาด และควบคุมคุณภาพได้ดีขึ้น

ภาพประกอบระบบแจ้งเตือน FixPro

✅ สรุป

การแจ้งเตือน ไม่ใช่แค่เรื่องของ “การส่งข้อความ” แต่คือ “การออกแบบระบบสื่อสาร” ที่ทำให้ทีมทำงานได้ทันที

FixPro พร้อมรองรับการแจ้งเตือนครบทั้ง Email, LINE, และ Pop Lite เพื่อให้คุณ ไม่พลาดงานสำคัญ, ลดความเสียหาย และ ประหยัดต้นทุน ในระยะยาว